บุกช่วยเด็กเพชรบูรณ์โดนพ่อติดยาทุบตีแถมไม่ให้ไปโรงเรียน อ้างกลัวโดนลักพาตัว
Source: mgronline.com
เพชรบูรณ์ - จนท.ลงพื้นที่บุกช่วยเด็กเพชรบูรณ์วัย 12 ปี..โดนพ่อติดยาทำร้ายทุบตีแทบไม่เว้นวัน แถมไม่ให้ไปเรียนหนังสือซ้ำ อ้างตีเพราะรัก-กลัวลูกโดนลักพาตัว
วันนี้ (7 ก.พ. 67) น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ แอดมินเพจ "เป็นหนึ่ง" ที่ช่วยเหลือสังคม นำเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเพชรบูรณ์ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเพชรบูรณ์ เจ้าหน้าที่ปกครอง เจ้าหน้าที่ อบต.บึงกระจับ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิเชียรบุรี ลงพื้นที่หมู่ 3 ต.บึงกระจับ อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ หลังได้รับเรื่องร้องเรียนว่ามีพ่อรายหนึ่งมีพฤติกรรมทำร้ายทุบตีคนในครอบครัวรวมทั้งลูกในไส้อยู่เป็นประจำ
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวสุรเดช หรือเบน พร้อมด้วย ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 12 ปี ลูกชายมาพูดคุยที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลบึงกระจับ เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือและนำตัวเด็กชายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลศรีเทพ รวมทั้งนำตัวเด็กและแม่เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิเชียรบุรี
นายสุรเดช หรือเบน พ่อของเด็ก อ้างว่าสาเหตุที่ตนทำร้ายลูกเนื่องจากว่าไม่เชื่อฟังไปเล่นนอกบ้าน รวมทั้งไม่ให้ลูกไปโรงเรียนเพราะเชื่อว่ามีคนจ้องที่จะลักพาตัวลูกชายของตนเอง เมื่อตนพูดไม่ฟังก็ต้องทุบตีเป็นธรรมดา ที่ทำไปเพราะรักลูก คนอื่นไม่เข้าใจในสิ่งที่ตนทำ แต่ตนก็ไม่สามารถที่จะอธิบายหรือบอกใครได้
แอดมินเพจ "เป็นหนึ่ง" บอกว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจากแม่ของเด็กชายเอว่าอยู่กินกับนายเบนแต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส จนมีลูกชาย 1 คน คือ ด.ช.เอ แต่นายเบนมีพฤติกรรมเสพยาเสพติด รวมทั้งทำร้ายทั้งตนเองและลูกชายจนทนอยู่ไม่ไหว แต่นายเบนไม่ยอมให้เอาลูกไปด้วย
ประกอบกับที่ผ่านมาได้รับแจ้งจากญาติๆว่านายเบนได้ทำร้ายร่างกายลูกชายเป็นประจำ ญาติๆ เองก็โดนทำร้าย ไปแจ้งความแล้วหลายครั้งแต่ก็ไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ รวมทั้งมีการถ่ายคลิปส่งมาให้ตนด้วย นอกจากนี้นายเบนยังไม่ยอมให้ไปโรงเรียน ทำให้เรียนไม่จบ ป.3
"จนปัจจุบันนี้ลูกอายุ 12 ปีก็ยังถูกนายเบนทำร้ายอยู่เป็นประจำ จึงร้องเรียนผ่านเพจ "เป็นหนึ่ง" เพื่อที่จะมาขอรับลูกไปเลี้ยงดู ซึ่งจากการลงพื้นที่ได้นำตัวเด็กออกมาให้ พม.ดูแลชั่วคราวและจะได้หารือเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือต่อไป"
นางสาวชนุพร กันยาสาย หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า หลังจากนี้ก็จะได้นำตัวเด็กไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล จากนั้นจะได้นำทั้งแม่และลูกไปแจ้งความดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้กระทำความรุนแรงในครอบครัว และ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก เรื่องการทำร้ายลูก และทำร้ายบุคคลในครอบครัว
ส่วนกรณีที่แม่จะขอรับไปดูแลนั้น ตนจะประสานไปยัง พม.ในพื้นที่เพื่อประเมินบ้านของแม่ในหลายๆ ด้านว่ามีสภาพแวดล้อมและความพร้อมที่จะรับลูกไปดูแลหรือไม่ ด้านพ่อของเด็กก็จะส่งตัวเพื่อเข้ารับการบำบัดทันทีตามที่ฝ่ายปกครองได้แจ้งไว้