ปิดตำนาน ทวงคืนที่ดิน 172 ไร่ "หาดเลพัง" จ.ภูเก็ต เกือบ 30 ปี กว่าจะได้คืน หาดสาธารณะแห่งใหม่ ทุกคนใช้ประโยชน์ร่วมกัน
Source: mgronline.com
ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ปิดฉากมหากาพย์ ยึดคืนที่ดิน 172 ไร่ "หาดเลพัง" จ.ภูเก็ต เกือบ 30 ปี ของการต่อกว่าจะได้คืน ที่ดินมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท ให้กลับมาเป็นของคนไทยทั้งชาติ หาดสาธารณะแห่งใหม่ ให้คนไทยได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน
กลายเป็นตำนาน มหากาฬ การทวงคืนที่ดิน หาดเลพัง - หาดลายัน ความยาว 2 กิโลเมตร ในพื้นที่ พื้นที่ ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นับเป็นชายหาดที่สวยอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดภูเก็ต ที่ปัจจุบันมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 4 -5 หมื่นล้านบาท แต่ในอดีตพื้นที่ดังกล่าว ประชาชน นักท่องเที่ยวไม่สามารถที่จะไปเดินเล่นชายหาดได้ เนื่องจาก มีเอกชน อ้างสิทธิ์ครอบครอง ที่ดินตั้งแต่ถนนลงไปจนถึงชายหาด พื้นที่ประมาณ 172 ไร่ เศษ แต่ท้ายที่สุดมหากาดังกล่าว สามารถปิดฉากลงได้อย่างสวยงาม ด้วยการส่งมอบที่ดินแปลงดังกล่าวกลับคืนมาให้ประชาชน นักท่องเที่ยวสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันโดยไม่มีใครเป็นเจ้าของ
ซึ่งเมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เป็นประธานในการเปิดกิจกรรม "มหาดไทย มอบความสุข คืนชายหาดเลพัง ให้ชาวภูเก็ต" ประกาศสงวนหวงห้ามที่ดินเพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ท่ามกลางความดีใจของคนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งสถานที่แห่งนี้จะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวและเป็นหาดสาธารณะที่ทุกคนสามารถเข้าไปท่องเที่ยวได้อย่างสบายใจ โดยไม่มีใครมาแสดงตัวเป็นเจ้าของอีกแล้ว
แต่กว่าจะเดินมาถึงวันนี้ได้ สำหรับการทวงคืนที่ดินมูลค่ามหาศาลแปลงนี้เป็นไปด้วยความลำบาก ผ่านมาเรื่องราวมาแล้วมากมาย เพราะได้มีการต่อสู้ฟ้องร้องกันมาอย่างยาวนาน เกือบ 30 ปี ระหว่างหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับเอกชนที่อ้างสิทธิครอบครองที่ดิน ที่มีการฟ้องกันไปมา ระหว่างภาครัฐ และ นายทุน จนกระทั่งศาลฎีกา มีคำพิพากษาถึงที่สุด ตั้งแต่ปี 2560 ให้จังหวัดภูเก็ต ชนะคดี และ เข้ารื้อถอน ครั้งที่ 1 ปี 2561 ครั้งที่ 2 ปี 2564 และครั้งสุดท้าย 30 ก.ย.2565 เท่ากับเป็นการปิดตำนาน ทวงคืน หาดเลพัง หาดลายัน ความยาว 2 กิโลเมตร พื้นที่ ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ศาลได้พิพากษาถึงที่สุดให้จังหวัดภูเก็ตชนะคดี ทางองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเลแจ้งความประสงค์ต่อนายอำเภอถลาง ขอสงวนที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่รกร้างว่างเปล่าเพื่อให้เป็นที่สาธารณประโยชน์สำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ซึ่งเรื่องนี้ นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน ได้ให้ข้อมูลว่า กล่าวว่า บริเวณหาดเลพัง หมู่ที่ 4และหมู่ที่ 6 ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต องค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเลแจ้งความประสงค์ต่อนายอำเภอถลาง ขอสงวนที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่รกร้างว่างเปล่าเพื่อให้เป็นที่สาธารณประโยชน์สำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ซึ่งอำเภอได้ตรวจสอบเบื้องต้นแล้วปรากฏว่า ที่ดินที่ขอสงวนเป็นที่รกร้างว่างเปล่า มีต้นสนทะเลขึ้นตลอดแนว และในระวางรูปถ่ายทางอากาศที่ถ่ายไว้เมื่อปี พ.ศ. 2521 ไม่ปรากฏร่องรอยการทำประโยชน์ในที่ดินแต่อย่างใดอำเภอถลางเห็นว่าการสงวนที่ดิน บริเวณดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องดำเนินการโดยเร่งด่วนเพื่อรักษาที่ดินไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ใช้ประโยชน์ หากปล่อยปละละเลยให้มีการบุกรุกเข้ายึดถือครอบครองจะเป็นเหตุให้ ประชาชนทั่วไปไม่สามารถเข้าใช้ประโยชน์ที่ชายหาดได้
ต่อมาปี พ.ศ. 2545 จังหวัดภูเก็ตเห็นชอบให้อำเภอถลาง ดำเนินการสงวนหวงห้ามเพื่อให้พลเมืองใช้ร่วมกัน โดยให้ดำเนินการตามระเบียบของคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ ฉบับที่ 9 (พ.ศ. 2529) ต่อมาอำเภอถลางได้มีประกาศลงวันที่ 16 มิถุนายน 2546 เรื่อง ที่ดินที่จะสงวน หรือหวงห้ามเพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันให้ประชาชนทั่วไปทราบทั่วกัน โดยแสดงขอบเขตที่ดินที่จะ สงวนเนื้อที่ประมาณ 178 ไร่
ปรากฏว่ามีผู้คัดค้าน จำนวน 9 ราย (ไปใช้สิทธิทางศาล จำนวน 7 ราย)ไม่ไปใช้สิทธิทางศาล จำนวน 2 ราย) ซึ่งทั้งศาลฎีกาและศาลปกครองสูงสุดได้พิพากษาแล้วว่า ที่ดินพิพาทเป็นที่ดินของรัฐเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินประเภทที่ดินรกร้างว่างเปล่าในปี 2565 องค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เห็นสมควรสงวนหวงห้ามที่ดินบริเวณชายหาดเลพัง หมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 6 ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เนื้อที่ 172-3-18 ไร่
"ทั้งนี้กรมที่ดิน พิจารณาแล้วเห็นสมควรสงวนหวงห้ามที่ดินบริเวณชายหาดเลพัง หมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 6 ตำบลเชิงทะเลอำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เนื้อที่ 172-3-18 ไร่ เพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน จึงได้เสนอคณะกรรมการจัดที่ดินพิจารณาโดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบการสงวนหวงห้ามที่ดินเพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันบริเวณชายหาดเลพังตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เนื้อที่ 172-3-18 ไร่ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ลงนามในประกาศคณะกรรมการจัดที่ดิน เรื่อง การสงวนหวงห้ามที่ดินของรัฐเพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน วันที่ 17 เมษายน 2567 มีผลทำให้ที่ดินดังกล่าวเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินที่พลเมืองใช้ประโยชน์ร่วมกัน"
ขณะที่นายมาโนช พันธ์ฉลาด นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล ได้ กล่าวตั้งน้ำตา หลังได้มีการส่งมอบที่ดินหาดเลพังพื้นที่ 172 ไร่ ให้มาอยู่ในความดูแลขององค์การบริหารบริหารส่วนตำบลเชิงทะเลเพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกัน ว่า สำหรับที่ดินแปลงนี้มีการต่อสู้กันมายานนานกว่า 23 ปี แล้ว วันนี้เป็นวันที่สร้างความดีใจให้กับในพื้นที่เป็นอย่างมาก 23 ปีที่ผ่านมาพี่น้องประชาชน ส่วนราชการได้พยายามปกป้องและทวงคืนพื้นที่นี้ให้เป็นสมบัติของชาติ โของโลก ซึ่งในฐานะตัวแทนชาวบ้านต้องของคุณทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องที่ทำให้มีวันนี้ วันที่คนทั้งชาติคนภูเก็ตได้เป็นเจ้าของที่ดินแปลงนี้ร่วมกัน
ที่ดินแปลงนี้มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ความยาวของชายหาด กว่า กิโลเมตร เป็นพื้นที่ที่มีมูลค่ามากมายมหาศาล และ มีคุณค่าต่อชาวจังหวัดภูเก็ต หลังจากทราบว่ามีการลงนามมอบที่ดินแปลงนี้ให้เป็นสมบัติของทุกคน น้ำตาแห่งความปิติก็ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว ซึ่งเป็นน้ำตาแห่งความดีใจของคนทุกคน การต่อสู้ที่ผ่านมากว่า 23 ปี เป็นการต่อสู้กับใครไม่รู้ แต่รู้ว่าคนเหล่านั้นมีพลังมากมาย แต่สุดท้ายความร่วมมือในการต่อสู้ของหน่วยงานรัฐ และประชาชนก็ประสยความสำเร็จ วันนี้ที่ดินแปลงนี้กลับมาเป็นของส่วนร่วมและประชาชนสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันได้แล้ว
อย่างไรก็ตามสำหรับที่ดินบริเวณหาดเลพัง เนื้อที่กว่า 172 ไร่ เป็นที่ดินที่มีมูลค่าสูง หลายมื่นล้านบาท เนื่องจากเป็นที่ดินที่อยู่ติดชายหาด และ อยู่ในย่านทำเลทอง ที่มีโครงการอสังหาริมทรัพย์ลักซ์ชัวรี่ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับที่ดินดังกล่าวมีการต่อสู้กันมาอย่างยาวนานระหว่างรัฐและนายทุนที่เข้าไปถือครอง แต่สุดท้ายทางภาครัฐก็สามารถทวงคืนที่ดินแปลงดังกล่าวกลับมาเป็นของหลวงได้สำเร็จ